"ชันสูตรศพทั้ง 6 คน! ไซยาไนด์ตามรอย เปิดตรวจสอบหาสาเหตุ"

แพทย์เผยผลชันสูตร 6 ศพ ตรวจพบ "ไซยาไนด์"แพทย์เผยผลชันสูตร 6 ศพ ตรวจพบสาร "ไซยาไนด์" หลังจากนี้รอหาตรวจความเข้มของสารพิษ
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 15.30น. ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แพทย์ได้แถลงผลชันสูตรชาวเวียดนาม 6 คน ถูกวางยาเสียชีวิต โดยรศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณะบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ ผ.อ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย รศ.นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ และ ผอ.ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ แถลงผลการชันสูจน์ศพชาวเวียดนาม 6 คน
รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า ทางศูนย์ได้ชันสูตรพลิกศพทั้งหมด 6 ศพ เป็นหญิง 3 ร่าง ชาย 3 ร่าง มาตั้งแต่คืนวานถึงตอนนี้ โดยได้พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล พิสูจน์เอกสารหลักฐานซึ่งตรงกับสภาพศพที่ได้รับ และได้เก็บภาพหลักฐานของผู้เสียชีวิต เก็บตัวอย่างจากผู้เสียชีวิต ประกอบด้วยเลือด ปัสสาวะ น้ำวุ้นในลูกตา เพื่อนำไปพิสูจน์หาสาเหตุการตายร่วมด้วย รวมถึงซีทีสแกนเพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้าย เบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายในทุกราย แต่
พบอวัยวะภายในพบการคั่งเลือดในปริมาณมาก ทีมแพทย์ประเมินว่าทุกรายมีระยะเวลาการเสียชีวิตประมาณ 12-24 ชั่วโมง โดยประเมินจากการตรวจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังการตาย ทั้งการคลายตัวของกล้ามเนื้อ การตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือด ซึ่งทุกศพมีลักษณะสอดคล้องกัน
จากการตรวจผ่าแยกร่าง พบว่า ทั้ง 6 รายทุกรายมีร่องรอยของการขาดอากาศ คือ ริมฝีปากเป็นสีม่วงเข้ม ปลายเล็บมือมีสีม่วง การตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือดพบเม็ดเลือดมีสีแดงสด อวัยวะมีสีแดงสดบ่งชี้อย่างหนึ่งได้ว่า อาจมีการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการขาดอากาศหายใจที่เกิดจากสารพิษร่วมด้วย ทำให้ทีมชันสูตรตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ทุกรายเสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ ทำให้เกิดการขาดอากาศในระดับเซลล์ของอวัยวะที่สำคัญ คือระบบ
ประสาทและหัวใจ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุการตายของผู้เสียชีวิตทุกราย แต่จะมีปริมาณเท่าใด และมีสารประกอบอื่น ๆ ที่ส่งเสริมฤทธิ์ด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลการตรวจเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถระบุได้ว่าใครเสียชีวิตก่อนหลัง หรือชักเกร็งก่อนตายหรือไม่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงหลังการตายนั้นมีปัจจัยรบกวนหลายอย่างเช่น อุณหภูมิ ระยะเวลาจึงอาจมีความคลาดเคลื่อน ทั้งนี้ พบว่าทุกศพมีเศษอาหารคงเหลืออยู่ในกระเพาะแตกต่างกัน ซึ่งบางรายอาหารย่อยไปมากแล้วแต่บางศพยังไม่ย่อยเท่าที่ควร แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอาหารชนิดใดบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้แพทย์จะบันทึกลงผลการชันสูตรแบบละเอียด
ส่วนการตรวจสอบสารไซยาไนด์ที่พื้นผิวอื่น ๆ ของศพนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องยอมรับว่าแพทย์ตรวจเฉพาะไซยาไนด์ในเลือด จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีไซยาไนด์ติดที่อวัยวะภายนอกของบุคคลใดใน 6 รายนี้บ้าง หลังจากนี้จึงจะมีการตรวจภายนอก
ด้าน รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า เบื้องต้นจากลักษณะที่ตรวจพบทั้งภายนอกและอวัยวะภายในไม่พบว่ามีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตนอกจากสารไซยาไนด์ ต้องรอผลตรวจอวัยวะภายในเชิงลึกเพื่อหาสารบางอย่างเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นหากได้รับสารไซยาไนด์ในปริมาณเกิน 3 มิลลิกรัมต่อเลือด 1 ซีซี หรือรับในปริมาณมากผ่านการกินดื่ม จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเหงื่อออกชักเกร็ง เพราะขาดออกซิเจนในสมองเฉียบพลัน ก่อนเสียชีวิตภายในเวลาหลักนาที
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงที่มาของสารไซยาไนด์ ว่า ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้สองประเด็นคือ เตรียมการนำเข้ามาก่อนเข้าประเทศไทย หรือหาซื้อในประเทศ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ กลุ่มผู้เสียชีวิตเริ่มเดินทางเข้าประเทศไปจนถึงวันที่ 12 ก.ค. และยอมรับว่า ขณะเดินทางผ่าน ตม.ไม่สามารถตรวจหาสารเหล่านี้ได้ รวมถึงไม่สามารถยืนยันว่าผู้ใดคือผู้นำเข้า ต้องรอ
การสืบสวนให้เสร็จสิ้นชัดเจนก่อน
- เริ่มแล้ว เช็กสิทธิ์ รับเงิน 10,000 เฟส 2 อายุ 60 ปีขึ้นไป เริ่มโอนเงิน 27 ม.ค. 68
- บี้ กทม. ซ่อม “ศูนย์กีฬา” เสื่อมโทรม ห่วงความปลอดภัยผู้ใช้บริการ เล็งให้เอกชนร่วมบริหาร
- ไม่เสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เพียงกิน 7 อาหารน้ำตาลต่ำต้านการอักเสบ
- "เบาหวานเปียก" กับ "เบาหวานแห้ง" คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
- "เอมี่" จัดทริปฉลองวันเกิดขึ้นเลข 4 ให้เพื่อนรัก สองสาวทริปนี้แซ่บมาก