สัญญาณเตือน โรคกระดูกสันหลังส่วนคอ ภัยร้ายใกล้ตัว

สัญญาณเตือน โรคกระดูกสันหลังส่วนคอ ภัยร้ายใกล้ตัว..

 

สัญญาณเตือน โรคกระดูกสันหลังส่วนคอ ภัยร้ายใกล้ตัว อันตรายถึงชีวิตหากไม่รักษาให้ตรงจุด

หลายคนเมื่อมีอาการปวดคอหรือหลัง มักหาทางออกด้วยวิธีการนวด ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการได้มากน้อยแตกต่างกันไป ในเรื่องนี้

นพ.ชุมพล คคนานต์ แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ เผยว่า อาการปวดคอพบได้ในคนหลากหลายอาชีพ

โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานออฟฟิศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องหลายชั่วโมง

การนั่งอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ เป็นสาเหตุของอาการปวดคอที่ทำให้ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์บ่อยมาก

อาจปวดแบบเป็น ๆ หาย ๆ หรือปวดเรื้อรัง ถ้าอาการปวดมาจากกล้ามเนื้อจะไม่ค่อยก่อปัญหาอะไรมาก

แต่ถ้าปวดรุนแรงมากเพราะหมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณกระดูกต้นคอเสื่อม แล้วเคลื่อนไปทับเส้นประสาท หรือ ไขสันหลัง อาการปวดชนิดนี้นับว่าเป็น

นพ.ชุมพลเผยว่า กระดูกสันหลังของมนุษย์ประกอบด้วย 5 ส่วนหลัก ได้แก่ กระดูกคอ (Cervical spine), กระดูกช่วงอก (Thoracic spine), กระดูกช่วงเอว (Lumbar spine), กระดูกสันหลังส่วนกระเบนเหน็บ (Sacrum) และกระดูกก้นกบ (Coccyx) แต่จุดที่มักพบปัญหาได้บ่อยที่สุดคือ บริเวณคอ ช่วงอก และเอว ซึ่งมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างมาก โดยเฉพาะกระดูกคอ ที่เป็นชุมทางสำคัญของไขสันหลังและเส้นประสาทที่เชื่อมโยงกับแขนและขา

กระดูกสันหลังส่วนคอ เป็นโครงสร้างที่ละเอียดอ่อนและสำคัญ เนื่องจากทำหน้าที่รองรับไขสันหลัง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการควบคุมของร่างกาย ไขสันหลังในบริเวณนี้จะส่งสัญญาณประสาทไปยังแขน ขา และอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปอดและหัวใจ การกดทับในบริเวณนี้อาจส่งผลรุนแรง เช่น อาการชา อ่อนแรง หรือสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว

ในทางกลับกัน หากปัญหาอยู่ที่กระดูกช่วงเอว ผลกระทบส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเฉพาะที่ขา เช่น อาการปวดร้าวลงขา อาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง การประเมินอาการอย่างถูกต้องจึงสำคัญอย่างยิ่ง เพราะลักษณะของปัญหาจะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่กระดูกสันหลังมีปัญหา

 

สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรละเลย
นพ.ชุมพลเผยถึงสัญญาณอันตรายที่ไม่ควรละเลย เช่น มีอาการปวดคอร่วมกับอาการชา โดยเฉพาะอาการที่ชาจากส่วนบนของร่างกาย เช่น แขน หรือร้าวลงถึงปลายนิ้วมือ, ปวดหลังร้าวลงขา หากมีอาการปวดร้าวจากหลังลงไปถึงขา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง การขับถ่ายผิดปกติ, ปวดเรื้อรัง หากปวดนานเกิน 2-3 เดือน และการรักษาเบื้องต้น เช่น การกินยาหรือกายภาพบำบัด ไม่ได้ผล

หลายคนมองหาทางออกด้วยการเข้าร้านนวด กรณีที่อาการปวดมาจากกล้ามเนื้อ เช่น อาการปวดเมื่อยทั่วไป หรือกล้ามเนื้อตึงตัวจากการใช้งานหนัก ซึ่งการนวดอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและลดอาการปวดได้ แต่การนวดไม่สามารถรักษาอาการที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลังหรือเส้นประสาทได้

ตัวอย่างเช่น กรณีของหมอนรองกระดูกปลิ้น กระดูกสันหลังเคลื่อน หรือไขสันหลังอักเสบ การนวดในกรณีเหล่านี้อาจไม่ได้ช่วยให้อาการดีขึ้น และหากการนวดกระทำโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจนำไปสู่ผลเสียที่ร้ายแรงได้  เช่น ในกรณีที่มีหมอนรองกระดูกปลิ้นหรือโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ การนวดแรง ๆ อาจทำให้เกิดแรงกดเพิ่มเติมที่เส้นประสาทหรือไขสันหลัง ส่งผลให้อาการปวดหรือชารุนแรงขึ้น... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 

นอกจากนี้ การบิดหรือดัดกระดูกแรง ๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกพรุน อาจทำให้กระดูกแตกร้าวหรือเกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้ และหากมีการอักเสบอยู่แล้ว เช่น โรคไขสันหลังอักเสบ การนวดในบริเวณนั้นอาจทำให้อาการแย่ลง

นพ.ชุมพลเผยว่า หัวใจหลักของการรักษาโรคกระดูกสันหลัง ไม่ว่าจะส่วนคอหรือส่วนหลังที่ต้นเหตุมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาผู้ป่วยให้หายขาดและยั่งยืน การรักษาที่เน้นสาเหตุของโรคมากกว่าการรักษาตามอาการ ด้วยนวัตกรรมเฉพาะทางช่วยให้หายจากอาการปวดต่าง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพายาแก้ปวดอย่างต่อเนื่อง

เพื่อการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ การวินิจฉัยที่แม่นยำด้วยเทคโนโลยี MRI และ X-ray โดยเทคนิคเฉพาะ สามารถปรับเป็นท่ายืนได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคกระดูกสันหลัง

ในกรณีที่มีอาการผิดปกติทางกระดูกสันหลัง เช่น ปวดคอ ปวดหลังร้าวลงขา หรือปวดโดยไม่ทราบสาเหตุ การตรวจด้วยเครื่อง MRI จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ แต่ต้องอ่านผลควบคู่กันกับการ X-ray เพราะจะทำให้เห็นโครงสร้างกระดูกสันหลังได้ชัดเจน นพ.ชุมพลกล่าว