รู้หรือไม่ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ในระยะเวลาอันสั้น อันตรายถึงเสียชีวิต...

รู้หรือไม่ ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ในระยะเวลาอันสั้น อันตรายถึงเสียชีวิต...

รู้หรือไม่ว่า การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปในระยะเวลาสั้น ๆ ส่งผลร้ายแรงต่อร่างกาย ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดพุ่งสูง ส่งผลต่อสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก หมดสติ เสี่ยงต่อหัวใจหยุดเต้น และอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต

ยิ่งเข้าใกล้การก้าวสู้ปีใหม่เท่าไหร่ ยิ่งเจอกันมากขึ้นสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นเครื่องดื่มคู่ใจการเฉลิมฉลองทุกเทศกาล แม้ว่าการดื่มจะทำให้บรรยากาศการสังสรรค์ครื้นเครง แต่กลับมีอันตรายมากมายแฝงตัวอยู่

 

อย่างที่หลายคนทราบดีว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดอาการมึนเมา เราจึงควรกินเท่าที่เรารับไหว เนื่องจากศักยภาพการดื่มของเราทุกคนไม่เท่ากัน แต่สำหรับคนที่ดื่มเพลินจนไม่รู้ตัวก็อาจทำให้เมาไม่ได้สติ จนอาจเกิดเป็นภาวะ ‘แอลกอฮอล์เป็นพิษ’ ซึ่งมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อาการของภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ
ผศ. นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ สาขาวิชาเภสัชวิทยาและพิษวิทยาคลินิก ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายภาวะนี้ไว้ว่า เป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก และดื่มอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น ๆ ทำให้ตับไม่สามารถขับสารนี้ออกจากเลือดได้ทัน ทำให้ระบบการทำงานของร่างการรวนจนเกิดภาวะช็อกที่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

ภาวะนี้มีสาเหตุมาจาก การดื่มจนทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กอปรกับอัตราเสี่ยง 3 ปัจจัยในร่างกาย ได้แก่

การดูดซึมสารในร่างกายของแต่ละบุคคล
ปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในแต่ละชนิดของเครื่องดื่ม
เพศหญิงจะมีปฏิกิริยาต่อแอลกอฮอล์ได้ไวกว่าผู้ชาย
โดยเราสามารถสังเกตอาการของภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษได้ ดังนี้...

  • สับสน
  • พูดไม่ชัด พูดไม่รู้เรื่อง
  • น้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ไม่สามารถทรงตัวได้
  • ง่วงซึม นอนหลับเยอะกว่าปกติ
  • อาเจียน
  • หายใจผิดปกติ
  • เกิดอาการชัก
  • การเคลื่อนไหวของดวงตาเร็วกว่าปกติ
  • ตัวเย็นจัด
  • ผิวหนังซีด กลายเป็นสีม่วง
  • หมดสติ ไม่รู้สึกตัว
  • เกิดภาวะกึ่งโคม่า ร่างกายไม่สามารถตอบสนองได้
  • หัวใจวายเฉียบพลัน
  • หยุดหายใจ


วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  1. รีบโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพ 1669 หรือโทรแจ้งตำรวจ 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ
  2. ปลุกผู้ป่วยให้ตื่นและพยุงให้อยู่ในท่านั่ง
  3. หากยังดื่มน้ำได้ ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเปล่า
  4. หากผู้ป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคงหรืออยู่ในท่าพักฟื้น คอยดูว่าผู้ป่วยยังหายใจอยู่หรือไม่
  5. หากพบว่าหยุดหายใจให้ทำการช่วยหายใจ หรือหากพบหัวใจหยุดเต้นให้เริ่มการกู้ชีพ CPR
  6. ทำให้ร่างกายของผู้ป่วยอบอุ่น
  7. คอยสังเกตอาการจนกว่ารถพยาบาลจะมา
  8. อย่าให้ผู้ป่วยหลับ
  9. ห้ามอาบน้ำให้ผู้ป่วย
  10. ลักษณะอาการที่อาจพบและระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (หน่วยเป็นมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)
    20 – 49 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อารมณ์ดี ผ่อนคลาย และการตัดสินใจช้าลงเล็กน้อย
    50 – 99 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เริ่มเสียการทรงตัว ควบคุมตัวเองได้น้อยลง และตอบสนองช้าลง
    100 – 199 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เดินเซ กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน
    200 – 299 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คลื่นไส้ อาเจียน การรับรู้ลดลง และจำเหตุการณ์ไม่ได้
    300 – 399 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หมดสติ ชีพจรลดลง และอุณหภูมิร่างกายลดลง
    มากกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มีโอกาสหยุดหายใจและเสียชีวิตได้


    การตอบสนองต่อระดับแอลกอฮอล์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แม้ระดับจะน้อยกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็อาจเสี่ยงจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือการนอนหลับลึกในท่าผิดปกติที่อุดกั้นทางเดินหายใจได้ เช่น การนอนคอพาดกับระเบียงจนกดทางเดินหายใจ

ผลกระทบต่อร่างกายจากการดื่มแอลกอฮอล์
เแม้ว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเพิ่มความสุข และสนุกสนาน แต่ข้อเสียที่ตามมาอาจไม่ทำให้เราสนุกไปด้วย แม้ว่าเราจะไม่ดื่มในปริมาณมากในระยะเวลาอันสั้น แต่การดื่มแอลกอฮอล์บ่อยครั้ง และมากเกินความจำเป็นของร่างกาย เราก็จะได้รับผลกระทบอยู่ดี อาทิ

หัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจทำงานผิดปกติ ไม่แข็งแรง เกิดหัวใจวายได้ง่าย
ตับ เกิดโรคตับแข็ง ตับที่ถูกทำลายจากแอลกอฮอล์จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดี เช่น การย่อยสลายสารอาหารหรือการเปลี่ยนแปลงของยาที่รับประทานเข้าไป บางรายอาจมีอาการตัวเหลืองตาเหลือง หรืออาเจียนเป็นเลือด
ผิวหน้า หลอดเลือดขยายตัว ผิวหน้าจะเป็นสีแดงเรื่อ ๆ ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนออกจากทางผิวหน้า บางครั้งอาจเกิดอาการหนาวสั่นหรือเกิดโรคปอดบวมได้ง่ายในฤดูหนาว
สมอง แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดการทำงานของสมองจะทำให้ความจำเสื่อม การตัดสินใจไม่ดี สมาธิเสีย โกรธง่าย พูดช้าลง สายตาพร่ามัว และเสียการทรงตัว
กระเพาะอาหารอักเสบฉับพลันบางครั้งทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร


ระบบสืบพันธุ์
– เพศชายเกิดการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
– ผู้หญิงตั้งครรภ์จะมีผลต่อทารกทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งตับ มะเร็งช่องปากและลำคอ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม
ดื่มอย่างไรให้ปลอดภัย
กินอาหารรองท้องก่อนดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมได้เร็วเมื่อท้องว่าง
ไม่ควรดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน
หลีกเลี่ยงการดื่มแบบแก้วต่อแก้วหรือดื่มครั้งละมาก ๆ
เมื่อเริ่มมีอาการมึนหัวให้ลดปริมาณการดื่มหรือหยุดดื่มทันที
อย่าดื่มจนเมาเกินไป
เพราะฉะนั้นควรดื่มแต่พอประมาณ ไม่หักโหมจนเกินไปเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายร้ายแรงที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ และไม่ให้เกิดข้อเสียที่ส่งผลระยะยาวต่อร่างกาย...